วันจันทร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ไม่มีใครรู้อนาคต



เป็นตัวอย่างนะครับ ตอนนี้ผมถืออยู่ การลงทุนเรื่องเวลากับการตัดสินใจนั้นเป็นเรื่องสำคัญนครับ THANI เป็นอีกตัวที่ผมจะยกตัวอย่างนะครับ กรกฏาคาปีที่แล้วมีแรงชื้อหุ้นเข้ามาดูตรงวงกลมสีแดงแรกนะครับ ผมก็เห็นและครับ ผมรอกระทั่งราคาพักตัวโวลลุ่มแห้งราคาย่อมาผมก็ชื่อเลยครับ รอเกือบเดือนที่สอง มีการดันราคาอีกรอบ ผมมนี่แอบดีใจนิดๆว่าคราวนี้ละพุ่งแน่ๆ ก็แหมเข้าตามกฏเราเลย 555 แต่แล้วทันใดโลกมืดดับไป เมื่อราคาทิ่งดิ่งลง จนสุดท้ายผมมาถอดใจขายขาดทุนไปจุดวงกลมเหลืองๆ ถือเกือบๆสี่เดือนขาดทุนอีก เม่าหน้อเม่า จนมันเข้าระบบสแกนของผมอีกครั้งดือนที่แล้วและผมก็ลงทุนไปอืกรอบครงจุดสีเขียวแรก และตัดสินใจชื้อเพิมอีกที่วงกลมสีเขียวที่สอง แม่เจ้า!!! ผมดวงดีอะไรปานนี้นะตอนนี้มันนขึ้นมาหกบาทแล้ว จะขายตรงไหนก็กำไร และยัง cover กับล่วนที่ผมขาดทุนไปในรอบแรก

ตัวอย่างนี้ผมไม่ได้ต้องการโอ้โอดว่าหุ้นตัวเองขึ้นนะครับ แต่ต้องการแสดงให้เห็นถึงการรู้จักแพ้อย่าฝืนตลาด เพราะไม่มีใครรู้อนาตคได้ ตลาดเป็นคนพาเราไป ปออันปันเราเอาหนึ่งเหตุผลมาจับเพราะคาดว่ามันจะเป็น อีกที่ครับ คาดว่ามันจะเป็น มาจับชึ่งมันมีถูกและผิดเสมอครับ ถ้าถูกเราได้ตังถ้าผิดเราเสียในจำนวนที่เราเสียได้ แบบนี้อยู่ได้นานในตลาดครับ



วันอาทิตย์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

โวลลุ่มมาราคาไป



ครับอีกตัวครับ volume ทะลัก ถือยาวๆราคาน่าจะไปได้นะครับ ปีที่แล้วก็มีนาปีนี้จะมีนาอีกไหมน้ออ้าย เม่าปออันปัน ขอตังเจ้าไว้กินข้าวแนจักหน่อยเด้อครับเด้อ อดมื้อก้นมือมานานขอกินอ่อมแซบๆจักมื้อเดอ้อคร้บเจ้า คริๆ

 



ไม่ได้แนะนำ แต่อยากให้ตามดูตัวนี้อีกตัวครับ


วันนี้ว่างมาอับเดตกันจักหน่อย ไม่ได้แนะนำ แต่อยากให้ตามดูตัวนี้อีกตัวครับ ไม่ได้เชียร์เด้ออ้าย ถ้าจะชื้อต่องมุจุดขาดทุนที่ชัดเจนเด้อครัยอ้าย ถ้าทะลุขึ้นไปได้อ้ายเอ้ย คริกๆๆ  หาแบบนี้ครับ ตอนนี้เต็มคลาด มีแต่เจ้าใจดี คริกๆๆ


เห็นอะไรไหมครับ


นี่เป็นรูปแบบที่เห็นๆกันทั่วๆไป ว่าหุ้นมันจะขึ้นมันเป็นจั่งชี้เด้ออ้าย  ผมแนะนำเสมอว่าหุ้นจะขึ้น มันต้องมีการทำราคา การที่เราเป็นรายย่อย เราไม่มีอำนาจไปกำหนดราคาได้หรอกครับ สิ่งที่เราทำได้คือเกาะเขาไปครับ ว่าด้วยหลักการปออันปัน  vollume และการถ่างของราคาครับ จากวงกลมสีแดงมีคนกวาดหุ้นไป คำนวนดูครับ เขาได้ไปกี่หุ้น ตำตอบคือ จะไปรู้บ่ครับ 555 แต่ที่เราจับต้องได้คือราคาที่ทะลุขึ้นด้วย volume ครับ คิดดูว่าใครจะเอาไปทำอะไร เขาเอาไปทำอะไร คงไม่ได้เอาไปกอดไว้แน่ๆ แบบนี้เตรียมตัวครับ หาจุดเข้วและจุดตัดขาดทุนให้ดีๆ  เอว่าแต่จุดไหนละ เอาง่ายๆ เอาเล้น EMA5 วันครับเป็นจุดชื้อ ล่วนจุดขาดทุนละ อันนี้แล้วแต่การยอมรับการขาดทุนขอแต่ละคนครับ แนะนำก็ต่ำกว่า EMA20 หรือ 50 ก็ได้เลือกเอา อย่าไล่ราคา ไม่ได้ก็หาตัวใหม่อย่าไปง้อมัน มันมีเจ้าหลายคน 555 ส่วนกำไรก็ตามแต่สะดวกใจครับ รักเจ้านะฮะ จุ๊ฟๆๆๆ


วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ว่ากันด้วยการหาหุ้นด้วย volume and spread แบบเม่าปออันปันครับ






ว่ากันด้วย set วันนี้ rsi เริ่มมีการพักตัวแล้วครับ อาจจะต้องลุ้นกันว่าจะหลุดแนวรับแท่งเขียว วันที่ 31 ตุลาได้ป่าวละเด้อครับ เอาพอหอมปากหอมหอเด้ออ้าย 





วันนี้เอาวิธีหาหุ้นแบบฮาร์อคอร์มาฝากกันครับ เอาหลักการ volume and spread ของเรายังจำกันได้ไหมหน้ออ้าย !!!! ถ้าจำบ่ได้กะกดนี้ทบทวนกันก่อนเด้อครับอ้าย !!! บลูชิตปออันปัน !!!

เอ้าเด้อ ใครมี e-finance กะเปิดขึ้นมาเด้อครับ เอาเม้าส์ไปจ่อ Insert => SET &MAI => Ranking => Compare Avg Vol5 แล้วเลือก Vertical หรือ Horiaontal ก็ตามใจเด้อครับ





จากนั้นตั้ง filter ตามรูปเด้อครับ เอ!!!! หลายๆคนสังสัยว่าจะทำอะไรกัน ฮิๆ เว้ากันง่าย คือ เราหาหุ้นที่เขากำลังเล่นกันครับ หุ้นที่เข่าไม่เล่นกันย่อมไม่ไม่แรงชื้อแรงขายใช่ไหมครับ



เราสนใจ %CMPR ครับ เอ!!! มันคือหยังหน้อ เอาดูใน !!! google !!! ครับ เข้าใจแล้วก็มาต่อครับ ฮิๆ  


ดูลำดับครับ ยิ่ง %CMPR มากแสดงให้เห็นว่าปริมาณชื้อขายมากครับ แต่ว่า เอ้าอย่าพึ่งชื้อเด้อครับ ใจเย็นๆ พิจารณากันก่อน ถ้าเข้าแบบไม่มีสติอาจเลียหายได้นะครับ เราเอา List ไปเปิดดูกราฟนะครับ ว่าตัวไหนเข้า บลูชิตปออันปัน ของเราครับ คือพึ่งทะละแนวต้านใหม่ๆครับโผม






เอาตัวอย่างนะครับผม IFEC DNA ป็าดธีโธ้ อยากยืม time machin โดเรม่อนกลับไปชื้อเด้หน้อ 555 แนวต้านเขาเก็บไว้เยอะครับ พอทะลุเห็น volume ไหม๋ น้อยๆ เอ้าก็หุ้นอยู่ในมือเขาเยอะนีครับ จ้าวฮะกะต้องลงทุนเด้อครับอ้าย จะขึ้นจะลง เขาก็ทำได้ง่ายครับทีนี้ 


IFEC


DNA



การเลือกหุ้น เราต้องเลือกหุ้นที่มันมีกำลังวิ่งครับ อย่าไปเลือกแบบที่ไม่มีกำลัง ยิ่งถ้าวิ่งในกรอบแคบๆแล้วละก็อย่าเสี่ยงเลยครับ เราเลือกตัวที่มีกำลัง แล้วดูว่าเราเสี่ยงได้แค่ไหน วางแผนไว้ ถ้าหลุดเท่านี้ก็ขายไปก่อน แล้วรอดูใหม่ แต่ถ้าขึ้นแล้ว กำไรแล้วจะแบ่งขายแบ่งถือก็ตามแต่ใจละครับ ก็กำไรแล้วนี่ มีบางคนแอบถามว่าจะขายไหนดีอยากได้ราคาแบบปลายยอดครับ ผมก็ตอบได้เลยครับว่า พวกที่ทำได้แบ่งเป็นสองพวกครับ คือ พวกดวงดีกะพวกขี้โมครับ 555 โอ้ยไปก่อนเสียวโดนเก็บ คริๆ  เดี๋ยวบทความหน้าเป็นอีกรูปแบบในการหาหุ้นครับโผม




วันอาทิตย์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

นักเกรงกำไรเขาคือใครใครคือเขา






นักเกรงกำไรเขาคือใครใครคือเขา เรารู้แต่นักเกร็งลำไยนะฮ๊าฟฟฟ  555  มันกะอันเดียวกันละเด้อครับอ้าย ผมขอใช้คำว่านักเกร็งลำไยเด้อครับ นักเกร็งลำไยอย่างพวกเรา คือ คนที่สนใจสร้างผลตอบแทนจากส่วนต่างราคา นักเกร็งลำไยจะมองที่ราคาของสินทรัพย์เป็นสำคัญ (ในที่นี้เว้าเรื่องหุ้นกันเด้อครับ) ร่วมด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลประกอบ เช่น ปริมาณการซื้่อขาย(volume) แท่งเทียน สถาวะตลาด และข้อมูลเชิงเวลา ที่สัมพันธ์กับราคาด้วยเน้อครับ อย่าลืมตลาดถูกเสมอครับ 




นักเกร็งลำไยอย่างเม่าปออันปัน ไม่จำเป็นต้อง เน้นซื้อๆขายๆในช่วงเวลาสั้นๆเสมอไป แต่การเก็งลำไยสามารถเล่นกับช่วงเวลาที่ยาวหรือสั้นก็ได้ครับ แต่วันนี้ผมจะเล่าการเกร็ง ลำไยแบบยาวๆหน่อยครับ ตามเทรนที่มันไป ตามระบบเทรด ที่ออกแบบ เช่นยาวตามแนวโน้มใหญ่ระดับ นาที ชั่วโมง วัน สัปดาห์ ระดับเดือน หรือตามวัฎจักรของหุ้นนั้นๆ เราเรียกรูปแบบเหล่านี้ว่า การเก็งลำไยระยะยาวหรือป่าวหว่า คริๆ จักเอิ้นว่าหยังกะช่างมันเถอะครับ 555







ตรงนี้ถ้าศึกษาดีๆ ให้แตกฉานจะพบกลยุทธ์หรือระบบ ที่สามารถทำเงินและประสบกับความสำเร็จได้เช่นกันเด้อ บางคนก็อาจเสียเงินก็ได้นะครับ ใครที่ทำเงินได้ก็บอก โอ้ยหน้อจ้าว ฮะใจดีแท้ๆหลาย แจกตังค์เม่าปออันปัน ใครเสียเงินก็โอดโอยว่า โอ้ยจ้าวฮะหน้อ คือมาใจร้ายกะเม่าปออันปันตัวน้อยๆแท้หน้อ ฮื่อๆๆๆๆ    
 


เอาเป็นว่าการเป็นนักเก็งลำไยระยะยาว มีความเสี่ยง และมีข้อจำกัด ที่แตกต่างจากการเก็งลำไยระยะสั้น อยู่หลายประเด็น(แน่นอนว่ามีข้อเด่น ข้อได้เปรียบที่แตกต่างกันด้วยครับ) ประเด็นหนึ่งทึ่ต้องตระหนักคือ ความเสี่ยงเรื่องวลาเด้อครับ การถือครองหุ้น ในพอร์ต ระยะเวลานานแปลว่า เรามีโอกาสรับความเสี่ยง ต่างๆทั้งแบบเป็นระบบและ ไม่เป็นระบบ จากปัจจัยภายในภายนอกเข้ามาได้เสมอ จำต้องระวังนะครับ เม่าปออันปันขอเตือนไว้เด้อ 
ดังนั้น การเกร็งลำไยที่ดี ควรทำอย่างไรหน้อ  เอาเป็นว่าเอาแนวคิดของเม่าปออันปันละกันเด้อครับ ผิดถูกก็แชร์มุมมองแลกเปลี่ยนกันเด้อครับเด้อ
การเก็งลำไย สิ่งสำคัญคือ ต้องถูกที่ ถูกเวลา ถูกชะตา (สองอันแรกเป็นหลักวิชาการจริงครับ แต่ ถูกชะตา อันน้ผมมั่วแถมๆให้มา 555 เป็นเรื่องจริงเด้อครับอ้าย คริๆ)




1."ถูกที่" (หมายถึงหุ้นเค้อครับ) คือ ต้องถูกตัว เลือกหุ้นมีอนาคตเติบโต มี story รองรับระยะยาว story นี่จะสร้างความคาดหวังในอนาคต  เพื่อให้เกิดคุณภาพของแนวโน้มราคาที่เป็นบวก บลาๆๆ แต่ถ้าคิดจะเป็นเม่าบลูชิฟปออันปันจำไว้เสมอ Volume & Spread เด้อครับอ้าย เราเป็นนักเก็งลำไย ส่วนต่างราคาคือ สิ่งที่มีค่า อะไรซื้อมาแล้วไม่เกิดกำไร ซื้อมาแล้วไร้อนาคต อย่าไปอมไปเสียเวลา และสมการที่นักเก็งลำไยไม่มาจะสั้นยาวต้องรู้จักคือ  
ราคาตลาด = มูลค่าพื้นฐาน + ความคาดหวังในอนาคต(+/-)
 การเกร็งลำไย เราวิเคราะห์กราฟราคาตลาด แต่ราคาเคลื่อนแกว่งไปมา มันมาจาก "ความคาดหวังในอนาคต" ที่แต่ละคนให้ไม่เหมือนกันครับ ตรงนี้คือแก่นสำคัญ การมองความคาดหวังในอนาคต คือ การมองปัจจัยเสี่ยงภายนอกภายใน ให้ครบ และกำหนดน้ำหนักความรุนแรง ดูว่ามันออกเป็น story เชิงบวกเป็นลบ ต่อ ราคาตลาด เว้าง่ายๆว่ามันบ่เขียวทุกวันเด้อบางวันกะแดง เขียวๆแดง ราคามันมีขึ้นมีลงเด้อครับอ้าย
เรามาดูปัจจัยเสี่ยงกันจักหน่อยครับ
1.      ปัจจัยเสี่ยงภายนอก เช่น เกิดภายนอกบริษัท และอาจจะไม่มีมีความเสียหายในระยะยาว  เช่น ประเด็นเศรษฐกิจของประเทศ , กำลังการซื้อของผู้บริโภค, อัตราดอกเบี้ย, นโยบายของภาคการเมือง , วัฎจักรอุตสาหกรรม , ต่างชาติ ซั่นดอกหว๋า

2.      ปัจจัยเสี่ยงภายใน เกิดกับตัวหุ้นเต็มๆ เช่น ต้นทุนการผลิต ต่างๆ การตลาด การแข่งขัน ช่องทางจำหน่ายสินค้าของบริษัท โอ้ยบานตะไท

ดั้งนั้นการมองความเสี่ยงแน่นอนว่ามัน ไม่ใช่จุดเข้าออก หรือสัญญาณซื้อขาย แต่ควรตระหนัก ควรรับรู้เพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจ ในการซื้อขายเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการเลือกหุ้น  ไม่ใช่รัฐยกเลิกงานประมูลต่างๆ แต่ดันไปหาหุ้นรับประมูลงานรัฐ แบบนี้มันก็ไม่ใช่ครับเด้อครับเด้อ


 2."ถูกเวลา" จุดเข้าออก หรือสัญญาณซื้อขาย
คือ การวิเคราะห์ราคาตลาด จังหวะเข้าออกต้องฉลาด สอดรับกับแนวโน้มการเคลื่อนตัวของแนวโน้มราคาหุ้นแต่ละตัว  สอดคล้องวัฏจักรตลาด วัฏจักรอุตสาหกรรมช่วงขาขึ้น อาจจะไม่จำเป็นเข้าที่จุดต่ำสุดเสมอไป แต่ก็ต้องไม่ใช่ไปเข้ามั่ว ในจุดเสียเปรียบ ไม่ใช่เข้าตอยเขาวายแล้ว แบบนี่มีแต่ขาดทุนเด้อครับอ้าย หรือเข้าตัวที่เขาไม่เล่นกัน ไม่มี volume ไม่มี story แบบนั้นถือยาวอมดอย ลำไยก็ไม่เกิดเด้อครับอ้าย 
เมื่อมั่น ใจหุ้นดี หุ้นเติบโต จะต้องมองจังหวะให้ออก  ที่สำคัญจะต้องเข้าในจุดที่ได้เปรียบ จากความบิดเบี้ยวของ ราคา อันเกิดจาก ความคาดหวังในอนาคต หรือเกิดอารมณ์ตลาดนะครับ 
 


วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2557

หลักการเข้าซื้อหุ้น




 หลักการเข้าซื้อหุ้น

1.การเข้าหุ้นในรูปแบบแรก...ข้อดีคือ ถ้าหุ้นไป จะไวและไปตอนนั้นเลย ไม่ต้องรอนาน
แต่ข้อเสียก็มีคือจะได้ราคาที่ไม่ถูกนัก(เพื่อแรกกับความมั่นใจว่ามันน่าจะไปแน่)
2.การเข้าหุ้นแบบที่สอง ข้อดีคือจะได้ราคาที่ค่อนข้างถูกมาก(ตัวนี้เมื่อวานผมเล่นรอบในวันสามรอบ ได้กำไรมากกว่าถ้าถือยาวแต่ต้น)





ส่วนข้อเสียคือ อาจรอนานกว่าแบบแรก เพราะเราเพียงคาดเดาว่ามันควรพักเสร็จเท่านั้น ส่วนเจ้าจะเอาเมื่อไหร่ เราเดาไม่ได้
(เมื่อวานที่ผมเข้าแล้วมันวิ่งเลย....ถือเป็นความโชคดีมากกว่านะครับ ไม่ใช่ทุกตัว...ระบบของเราก็การเข้าแบบนี้ ต้องรอได้บ้าง)




ทีนี้ลองมาดูว่าทำไมผมแบ่งขาย bsm 2/3 ที่ราคาปิด 2.08 ...... แต่รับกลับ btc (ที่แบ่งขายเล่นรอบ 1.77) ที่ราคา 1.74


เพราะตามระบบของเราแล้ว bsm ขึ้นแบบมีโวน้อยกว่าที่ควร....ส่วน btc ดีดขึ้นด้วยโวที่มีนัยยะสำคัญมากกว่า


....ว่ากันตามระบบและผมเลือกทำตามระบบเท่านั้นนะครับ ส่วนวันนี้หุ้นจะไปทิศทางใด
นั่นก็อาจอีกเรื่องที่เราต้องตามดูกันและพลิกแพลงตามสถาการณ์ต่อไปครับ  


วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557

กุ่ดม๊อนิงงงงง ติ๊ดเช่อ




กุ่ดม๊อนิงงงงง ติ๊ดเช่อ...ฮาวดูยูดู๊ ผุ๊บ่าว ผุ๊สาว ^_^





ตลาดในรูปแบบทางเทคนิคแบบ ง่ายๆ เบสิคๆที่เหมาะกับคนที่ไม่เคยศึกษากราฟมาก่อนเลย(จะเริ่มกันเลยก็ได้นะครับ สำหรับท่านที่สนใจ)
มองรวมทั้งตลาด หรือมองที่ set ก่อน....โดยดูอินดี้ RSI เป็นหลักก่อน(อะไรที่ยากๆว่านี้ ค่อยไปประยุกต์ต่อ)
1.ระยะสะสมหุ้น(เบื้องต้นให้มองกลุ่มหุ้นเซ็ต50 ก่อนครับ....บลูชิปของเรามันแอ๊ดแว๊นนนน กว่านั้นมาก ค่อยว่ากันทีหลัง)
คือระยะที่ตลาดมีแรงขายจน RSI ปริ่มๆ 30 +/- ตอนนี้คือระยะซื้อโลด(แบบมีสต๊อปลอส) บ่ต้องย่าน ตลาดมันเป็บแบบนี้
2.ระยะ let profit run ...... คือ RSI ดีดจากปริ่มๆ 30 ขึ้นมาเกิน 50 ..... ขึ้นมาจากประมาณ 30นะครับ ไม่ใช่ลงมา 70 อิอิอิ
3.ระยะขาย.....RSI ปริ่มๆ 70 ขายโลด บ่ต้องเสียดาย
การเล่นหุ้นแนวเก็งกำไร คือการเล่นรอบ....ส่วนท่านที่มีแนวทางวีไอ(ผมนับถือทุกแนวการลงทุนของทุกท่านครับ) ก็คงไม่ใช่คอนเซ่ปนี้นะครัช ^_^






ส่วนอันนี้ ranking ด้วย %CMPR ครับ ดูๆไว้ว่าตัวไหนที่ volume เข้าผิดปกตินะขอรับ ยกตัวอย่างเช่น หุ้น A ปกติจะมีปริมาณไม่เกิน 5 ล้านหุ้้น แล้วอยู่พุ่งมาเป็น 50 หุ้น เจอแบบนี้ให้เก็บใน watch list เราเลยครับ ถ้ามันไม่ทะลุแนวต้านเก่าแสดงว่าราคาน่าจะโดนกดลงก่อนแน่ๆ เราต้องเฝ้าดูมันต่อไปครับ บางทีเป็นเดือนหรือมากกว่าครับ แล้วแต่เจ้ามือครับ 555 แต่ถ้าทะลุขึ้นไปก็ขี่ไปกะเขาเลยครับ อย่ารอรี คริๆๆ การซื้อควรแบ่งเป็นไม้ๆครับ และที่สำคัญอย่าทุ่มเด้อครับเด้อ จ้าวฮะบางคนโหดเด้อครับเด้อ ตบจูบ ตบจูบ กะมีเด้อครับ ระวังไว้หน่อยก็ดีครับอย่าประมาทนะครับ พี่น้องชาวเม่า ฮิฮิ



เอ้าขึ้นต้นด้วยน้อง stop จบด้วยน้อง stop เอาใจเจ้าสำนักจักน่อยเด้อคร๊าบบบบบ.......



วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

DNA หุ้นตัวอย่างปออันปัน






กูด อ๊าฟเด้อช๊อค!!! เอ้ย  อ๊าฟเด้อนูน ทุกๆท่านครับ

สวัสดีอย่างเป็นทางการครับ มาโม้กันต่อยามว่างๆครับ เป็นเพียงมุมมองและแลกเปลี่ยนกันนะครับ มีหลายๆคน inbox มาหาครับถามหลายๆอย่าง บางคนถามแบบเจาะลึกถามแบบจะขุดไปสะดือโลกเลย คริๆ ผมออกตัวก่อนนะครับว่าผมเป็นแค่พนักงานรายวันกินเงินเดือนครับ ไม่ได้เก่งหรือมีความรู้มากมายอะไรครับ ผมอาศัยหลักง่ายๆครับ ตัดเอาเรื่องยากๆออกไป (back to basic) คริกๆๆๆ ผมออกแนวโหดเฮฮาครับ 555




เมื่อนก่อนตอนเป็นเด็กใหม่ (ฮิๆ ตอนเป็นผู้บ่าวสำน้อย) ผมแทบจะเอา indicators ทุกๆตัวมาใส่ จนแบบจะดูไม่รู้เรื่องเพราะอะไรนักหนาก็ไม่รู้ครับ ผมเองเป็น member ของพันทิย์มาพักหนึงจนได้พบเจอผู้ใจดีในเวบบอร์ดครับ พี่ halogen นั่นเอง แรกๆแกก็หม้อๆหมกๆครับ จนในที่สุดแกเขียนกระทุ้สอนขึนมา ผมตามอ่านจนตกผลึกเอามาเป็นของตัวเอง จนวันหนึ่งผมพอตัวแล้วจึงได้เอาความรู้นี้เผยแพร่ฟรีครับ ก็เหมือนที่ผมได้มาฟรี ผมก็ยินดีถ่ายทอดฟรีๆครับ ที่เหลือคือตัวท่านเองครับว่าจะนำไปประยุกต์ใช้ยังไงครับ

แอบขี้โม้นิดหนึ่งเด้อครับ อาทิตย์ที่ผ่านมามีคนมาขอให้อธิบายครับ ผมเองก็ยินดีครับ อธิบายมือใหม่ไปสองท่าน และขอบคุณสำหรับของฝากและมิตรภาพที่ให้กันครับ ฮิฮิ วันไหนผ่านมาอย่าลืมมาเลียงMK อีกเด้อครับ ลาภปากหลายๆ

เข้าเรื่องดีกว่าครับ โม้นานไปแล้ว เดียวรำคาญผมก่อน 555

Volume and spread วันนี้ขอเสนอ DNA ครับ เป็นอดีตไปแล้วนะครับ อย่าตามเด็ดขาด ฮิๆ



โอ้ยงามหลายๆ ใครเข้าตั้งแต่ 26-29 กันยายนป่านนี้เอาเงินไปเก็บที่ไหนครับ ถ้าผมรู้ผมรวยไปแล้วววว 555 รูปแรกเป็นของวันนี้ครับ เห็นแล้วเป็นไงครับ อยากมี time machine นั่งกลับไปไหมครับ 555 



วันที่ 17 เมษายาทำ  high 1.80 ด้ว volume 25 ล้านหุ้น ซึ่งปกติ ซื้อขายไม่เกิน 1 หุ้นต่อวันเท่านั้นครับ แบบนี่เขาเรียก ยิงดาวเอาหุ้นครับ คริๆ  แบบนี้เจ้ามือตั้งแนวต้านแล้วครับ แล้วเขาก็ทุบลงมาครับ 




ครั้งที่สอง ดันขึ้นไป 55 ล้านหุ้นเอาไปชนแนวต้าน 1.8 ครับ ทะลุแบบกระแดะ high 1.86  แต่ยืนไม่ไหวโดนทุบลงมาตำเตี้ยเหมือนเดิมครับ ใครที่ซื้อเข้าต้องรีบคืนของเขาครับ ฮือๆๆๆๆ เจ้าหนอเจ้าใจร้ายกะเม่าแท้หน้อ



ครั้งที่สามมันมาอีกครับด้วยการซื้อขาย 82 ล้านกว่าๆ แถมราคาไม่ทุบลง และยืนแถวๆแนวต้านอีกต่างหาก เอ แล้วเม่าอย่างเราจะทำไงละครับ  วิธีการนะครับ การเข้าชื้อแบ่งเป็นไม้ๆ อย่าเข้าทีเดียว และที่สำคัญ ตั้งจุดตัดขาดทุนในจเสมอครับ 

จำไว้นะครับตลาดถูกเสมอ ถ้าไม่เป็นไปตามแผนให้ออกมาก่อนครับ โดยเราอาจขีดเส้น support line ไว้ก็ได้ครับถ้าหลุดเราก็ออกมาก่อน อย่าคิดว่ามันจะเป็นอย่างที่เราคิดครับ และถ้ามันไปก็อย่าพึ่งขายนะครับ เราดูมันก่อนครับ เราต้องวางแผนนะครับว่าถ้าหลุดแนวนี้จะทำยังไงต่อ เราต้องมีแผนในใจเสมอครับ อ้อแบ่งขายกำไรออกบ้างก็ดีครับ เอากำไรมาถือไว้ก่อนเด้อ อย่าสิโลภหลายเด้อครับ ฮิๆ

แล้าเราจะขายเมื่อไหรละ 555 ตอบยากครับ แล้วแต่เลยครับ แต้สำหรับผมหมูหกดีกว่าติดดอย 555 แต่ไม่ใช่ 1-2 ช่องขายนะครับ แบบนี้ออกไปทำอย่างอื่นดีกว่าครับ อย่างมากได้แค่ค่ามาม่าครับ 

ส่งท้ายครับ คนที่ชื้อต่ำสุดขายสูงสุดมีสองแบบครับ คือ ขี้โม้มากกว่าผมกับมันฟลุ๊คมากๆๆๆๆๆ และมากครับ 555 เชื่อไหมตั้งแต่ผมลงทุนมา จะสิบปีละยังทำไม่เคยทำได้เลยครับ 555 

เอาไว้ว่างๆจะมาโม้ให้ฟังใหม่ครับ ลากันด้วยรูปน้องน่ารัก (เอามาจากไหนหว่า ลืม อิอิ) โชคดีกับการลงทุนเด้อครับอ้ายย



พอดีไปเห็น VOD เก่าที่ทำไว้ครับ ผมอาจจะอธิบายมั่วนะครับ จับใจความเอาไปประยุกต์ใช้เอาเด้อครับ ฮิฮิ อ้อ ผมไม่ได้อยากเด่นอยากดังนะครับ ไม่โชว์พอร์ทหรืออะไรทั้งนั้น (เพราะจริงๆติดดอยอยู่เด้ออ้ายเด้อ ฮิฮิ) ไม่มีคอร์สสอนเก็บเงินใดๆทั้งสิ้น ผมทำด้วยใจ ถ้าผมแชร์มุมมองแลกเปลี่ยนความเห็นกับใครก็ทำฟรีครับ ไม่มีการเก็บใดๆ ไม่มีสัมนาใดเด้อครับ ถ้าอยากเก่งต้องฝึกฝนเด้ออ้ายเด้อ ฮิฮิ จุ๊บุ จุ๊บุ เบิ่ง VDO กันอ้ายเด้อ ......